ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
เราสามารถคาดนิสัยการนอนของทารกได้บางส่วนโดยสังเกตจากการนอนของเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นี่อาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ แต่มีหลักฐานบางอย่างที่ชี้ว่าเราสามารถทำเช่นนั้นได้ แม้แต่ช่วงเจ็บท้องคลอดและเวลาคลอดก็มีส่วนในการกำหนดเวลานอนของเด็กแรกเกิดเช่นกัน
แต่ต่อให้เราคาดเดาได้ เราก็คงทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม นอกจากจะพยายามปรับให้เด็กนอนในเวลากลางคืน (หรืออย่างน้อยก็เกือบตลอดทั้งคืน) และหาวิธีช่วยไม่ให้ลูกสับสนระหว่างกลางวันกับกลางคืน
ปรับเปลี่ยนกิจวัตร
การสอนให้เด็กสามารถแยกแยะกลางวันกับกลางคืนได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว นี่เป็นวิธีที่ได้รับการพิสูจน์ว่าได้ผลจริง
1. จำกัดเวลางีบ เด็กที่กลางวัน-กลางคืนสลับกันไม่จำเป็นต้องนอนเยอะในช่วงกลางวัน อย่าให้ลูกนอนนานกว่า 1 ชั่วโมง มากกว่า 2-3 ครั้งในช่วงกลางวัน
2. อย่าให้ลูกนอนหลังจากบ่ายสามโมง เพื่อที่เขาจะได้รู้สึกเหนื่อยและง่วงนอนในตอนกลางคืน
3. พาลูกออกไปสุดอากาศและโดนแสงแดด (แต่ไม่ใช่โดยตรง) ในแต่ละวัน แดดอ่อน ๆ และอากาศบริสุทธิ์ จะทำให้รู้สึกสดชื่น คุณเองก็จะได้ออกกำลังไปในตัวด้วย
4. ทำให้บ้านสว่างในช่วงกลางวัน เปิดม่าน เปิดไฟ
5. เปิดเพลงและคอยกระตุ้นลูกด้วยอะไรสนุก ๆ เช่น ของเล่นสีสันสดใส หรืออะไรที่เคลื่อนไหวได้ในช่วงกลางวัน
6. เล่นกับลูก ให้ลูกได้ขยับแข้งขยับขาบ้าง
7. คุยกับลูก ไม่ว่าจะเรื่องค่าน้ำค่าไฟ หรือเพื่อน ๆ หรืออะไรก็แล้วแต่เพื่อทำให้ลูกตื่นตัวอยู่เสมอ

ตั้งโปรแกรมให้ลูกนอนตอนกลางคืน
คุณอาจจะคิดว่านี่คนนะ ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ เราแค่กำลังจะบอกว่ามีขั้นตอนต่าง ๆ ที่คุณควรทำเพื่อสอนให้ลูกรู้จักกลางวันและกลางคืน
1. ลดกิจกรรมและการกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียง แสง หรือการเคลื่อนไหวลงในช่วงเย็น
2. พยายามทำทุกอย่างให้เป็นกิจวัตรสม่ำเสมอ
3. ให้ลูกอาบน้ำอุ่น ๆ ก่อนนอน
4. กอดแล้วร้องเพลง หรืออ่านนิทานเบา ๆ กล่อมก่อนนอน
ปรับห้องลูกให้น่านอน
เริ่มจากปิดม่านเพื่อให้ห้องมืด อย่าวางหรือติดอะไรที่มันอาจกระตุ้นลูกไว้ใกล้เปล ลดระดับเสียงและการเคลื่อนไหวทุกอย่างในบ้านลง ถ้าต้องเดินผ่านห้องนอนลูกบ่อย ๆ ให้ปิดประตูหรือแง้มประตูไว้เพื่อลดการรบกวน
อดทน
พึงระลึกไว้ว่าเด็กที่สับสนกลางวัน-กลางคืนเขาไม่ได้ตั้งใจจะกวนคุณ พวกเขาแค่สับสนกับโลกที่พวกเขาเพิ่งลืมตามาเห็น ดังนั้นพยายามอดทน แล้วทุกอย่างก็จะปรับสู่วงจรปกติในที่สุด